คือท่านเอง "พุทธอิสระ"
ดูกันให้ชัดเจน...ว่าใครกันที่ทำให้การคณะสงฆ์ปั่นป่วน
ยังมีความเป็นพระหรือไม่..???
สร้างข้อพิพาท ..ต้องการให้พระรูปอื่นลาสิกขาเพื่อการใด??
แล้วไฉน..ท่านไม่เคยดูโทษของตนเอง
"ผ้าเหลืองร้อนเป็นไฟ" หัวใจท่านทำด้วยสิ่งใด ขอโปรดพิจารณา..
ผู้มีปัญญาเชิญพิจารณา..
กรณีแอบอ้างพระอักษรเกี่ยวข้องกับอาบัติ ดังนี้...
1. กรณีห้ามรื้อฟื้นอธิกรณ์ขึ้นมาใหม่นั้น
- ตามพระธรรมวินัย หากการกสงฆ์ (กา-รก-สงฆ์) หมายถึง พระภิกษุที่ได้รับมอบหมายจากสงฆ์ ให้มีหน้าที่ในกิจนั้นๆ ได้วินิจฉัยอธิกรณ์ไปแล้ว เสร็จสิ้นแล้ว และสงฆ์ก็ยอมรับในคำวินิจฉัยนั้น.
- พระวินัยแจ้งชัดว่า ห้ามรื้อฟื้นอธิกรณ์นั้นขึ้นมาใหม่.
- ผู้ที่ไม่มีหน้าที่ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือไม่ได้เป็นผู้ฟ้องเดิม.
- ภิกษุผู้ไปรื้อฟื้นอธิกรณ์ขึ้นมาใหม่ ด้วยไม่ถูกใจตน ไม่ถูกใจพวกตน หรือด้วยขัดเคืองใจ เป็นอาบัติปาจิตตีย์.
พุทธอิสระ รื้อฟื้นอธิกรณ์ที่การกสงฆ์ทำเสร็จแล้วตามธรรมตามวินัย ต้องเป็นอาบัติ "ปาจิตตีย์".
ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่า
เรื่องที่ทำนั้นเป็นอาบัติปาจิตตีย์ แต่พุทธอิสระก็ยังขืนทำซ้ำเรื่องเดิมๆ ใครห้ามก็ไม่เชื่อฟัง เป็นผู้ดื้อด้าน ว่ายากสอนยาก แสดงอาการอาฆาตมาตรร้าย สร้างความเอือมระอาแก่หมู่คณะ ชักเข้าหาอาบัติหนักเป็นสังฆาทิเสส เพราะเป็นคน "ว่ายากสอนยาก".
- แม้สงฆ์เตือนครั้งที่ 1 ไม่เชื่อฟัง เป็น "อาบัติทุกฏ"
- เตือนครั้งที่ 2 ยังไม่เชื่อฟัง ก็ให้ปรับเพิ่มขึ้นไปอีก เป็น "อาบัติถุลลัจจัย" โทษฐานดื้อด้าน มีพฤติกรรมชั่วหยาบ.
- แม้เตือนครั้งที่ 3 ก็จะเป็นอาบัติหนัก ถึงขั้นสังฆาทิเสส ต้องอาศัยความอนุเคราะห์จากสงฆ์จึงจะออกจากอาบัติสังฆาทิเสสข้อนี้ได้.
สรุป: พุทธอิสระทำหยาบช้า(ถุลลัจจัย) ต่อสงฆ์ไว้มากมายขนาดนี้ แล้วไซร์ สงฆ์คณะไหนเลยจะอนุเคราะห์ให้พุทธอิสระออกจากอาบัติได้สุดท้ายก็จะตายไปพร้อมกับอาบัติหนัก เข้าถึงทุคติวินิบาต เป็นที่สุด.
2. กรณีตัวอย่างการพฤติชั่วหยาบ
- พุทธอิสระมีพฤติกรรมทำลายพระวินัยเป็นอาจิณณ์ เพราะทำผิดซ้ำๆ ในเรื่องเดิมๆ กรณีใช้พระลิขิตรื้อฟื้นอธิกรณ์ คือ
2.1 ไปยื่นสำนักนายก เป็นปาจิตตีย์ ๑ ข้อ.
2.2 ไปยื่นดีเอสไอ เป็นปาจิตตีย์ อีก ๑ ข้อ.
2.3 ไปยื่น ปปช เป็นปาจิตตีย์ อีก ๑ ข้อ
2.4 ไปยื่นรัฐสภา เป็นปาจิตตีย์ อีก ๑ ข้อ
2.5 ทุกครั้งที่ไปยืนแถลงข่าวในที่ต่างๆ กี่ ๆ ครั้ง เป็นอาบัติทุกๆ ครั้งที่แถลง.
3. การไปรื้อฟื้นอธิกรณ์ ชื่อว่า ตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์ ในเมื่อสงฆ์มีความสามัคคีพร้อมเพรียงกันอยู่ดีแล้ว ยังตะเกียกตะกายเพียรพยายามทำลายสงฆ์ให้แตกสามัคคี เป็นอาบัติ "สังฆาทิเสส"
4 . ส่วนกรรมอันเป็น "อนันตริยกรรรม"
สำหรับผู้ที่เข้าพวก เข้าขบวนการพากันตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์
ก็ไม่พ้นอนันตริยกรรม เช่นเดียวกัน.
- ขึ้นชื่อว่า อนันตริยกรรมเป็นกรรมหนักนัก
แม้แผ่นดินก็ไม่อาจทรงเขาไว้ได้.
5. สรุปอาบัติ "พุทธอิสระ"
- ต้องอาบัติ ปาจิตตีย์ เพราะเป็นผู้ไม่หลงเหลือความดีอยู่เลย.
- ต้องอาบัติ "ถุลลัจจัย" เพราะมีประพฤติกรรมชั่วหยาบ.
- ต้องอาบัติ "สังฆาทิเสส"
เพราะเป็นผู้ว่ายากสอนยาก และเพราะเพียรพยายามตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์
ข้อนี้จะต้องอาศัยความอนุเคราะห์จากสงฆ์จึงจะออกจากอาบัตินี้ได้.
6. ส่วนอาบัติกรณี กล่าวยืนยันพระลิขิตนั้น
- ใคร ๆ อย่าไปเที่ยวยืนยันโดยเด็ดขาดว่าเป็น "ของจริง"
เพราะจะทำให้ "ผู้โจทก์"
เป็นอาบัติ "สังฆาทิเสส" โดยทันที โดยไม่มีใครปรับอาบัติ
วัตถุประสงค์เพื่อทำลายสงฆ์
ให้สังฆมลฑณเสียหาย
แค่นี้ก็บาปมหาศาลแล้ว
นี่หรือคือ "พระ"
นั่นสิ!!! เมื่อไรอิดสาร่าจะกลับตัวเลิกทำชั่วสักที
ตอบลบใช่ค่ะ รออยู่ค่ะ
ตอบลบI don't think he is a Buddhist monk.He behaves like a member of a gang.
ตอบลบผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในพระธรรมวินัยท่านใด ที่เห็นว่าข้อความใดในบล็อกนี้ผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ถูกต้อง ได้โปรดอนุเคราะห์ชี้แจงแทนท่านด้วยนะครับ
ตอบลบยาวเกินไปครับ มันตบทรัพย์ที่scbและให้การสนับสนุนป็อบคอนไปฆ่าคน ก็ปราชิกแล้ว
ตอบลบยาวเกินไปครับ มันตบทรัพย์ที่scbและให้การสนับสนุนป็อบคอนไปฆ่าคน ก็ปราชิกแล้ว
ตอบลบนี้แหละมานศาสนาตัวพ่อเลย...
ตอบลบอนุมูลอิสระ
ตอบลบไปลงนรากซะที
ตอบลบธรรมมะคือธรรมชาติ พระธรรมคือคำสั่งสอนจากพระพุทธเจ้า สอนให้คนละกิเลส โดยมีศีลคือกฎเกณ ท่านคือพระศีลของท่านทำได้หรือไม่กิเลสท่านตัดได้หรือไม่ ������
ตอบลบ